รีวิวสินค้า

Blue : Essential Series สุดยอดไมโครโฟนรุ่นยอดฮิตที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นใหม่ ไฉไลกว่าเดิม

โดย Millionhead ในวันที่ 29 มิ.ย. 2560, 10:18 น.

image

การกลับมาอีกครั้งของ Blue : Essential Series กับการพัฒนาครั้งใหญ่ที่พร้อมจะบันทึกทุกแรงบันดาลใจของคุณ

กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องชาว Millionhead ทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับการรีวิวสินค้าจากทางเรา โดยในครั้งนี้ เราจะมาทดสอบไมโครโฟนจากค่าย Blue  ไม่ใช่แค่ 1 ไม่ใช่แค่ 2 แต่ทดสอบกันทีเดียว 3 ตัวไปเลย กับ Blue : Essential Series ซีรี่ย์ยอดนิยมของ Blue ซึ่งขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่ากันมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ในครั้งนี้ได้กลับมาในรูปโฉมใหม่ พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายกว่าเดิม ส่วนรายละเอียดจะเป็นยังไง จะแตกต่างจากเจ้า Essential Series ดั้งเดิมอย่างไร เชิญติดตามรับชมกันได้ ณ บัดนี้ !!

 

ซีรี่ย์ยอดฮิต Blue : Essential Series

Blue : Essential Series เป็นซี่รี่ย์ของ Conderser Microphone ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงเนื่องจากคุณภาพเสียงที่คมชัด ซึ่งในซีรี่ย์นี้ประกอบด้วยไมค์ทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Spark, Bluebird และ Baby Bottle ซึ่งต่างก็มาพร้อมคุณภาพระดับคับแก้ว แต่ทาง Blue ยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น พวกเขายังคงตั้งใจที่จะพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ในงาน NAMM 2017 ทาง Blue ก็ได้ออกมาประกาศถึงการพัฒนาครั้งใหม่ของ Essential Series ซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น กับ Blue : Essential SL

 

 

Blue : Essential Series “SL”  ซีรี่ย์ใหม่ ไฉไลกว่าเดิม


โดยในการประกาศของทาง Blue พวกเขาได้ทำการต่อท้ายชื่อรุ่นด้วยคำว่า SL ซึ่งได้แก่ Spark SL, Bluebird SL และ Baby Bottle SL ซึ่งก็ไม่ได้เอามาต่อท้ายเพื่อเพิ่มความเท่เฉยๆ แต่ยังได้จัดการพัฒนาจาก Essential Series ด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่น Pad  -20 dB และฟังก์ชั่น High-Pass Filter ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถใช้งานกับเครื่องดนตรีได้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอัดแบบ จ่อหน้าตู้แอมป์ หรือการอัดเครื่องดนตรีที่มี Attack แรงๆ ไปจนถึงการอัดกีตาร์โดยการจ่อไมค์ไปที่ซาวด์โฮลเพื่อจับความอคูสติค หรือการอัดเครื่องดนตรีย่านเสียงสูง ก็สามารถทำได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งต้องยกเครดิตให้ทาง Blue ที่ตั้งใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเขาอย่างต่อเนื่อง จนได้ออกมาเป็นไมโครโฟนที่คุณภาพสูง กับฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งจะทำให้คุณมั่นใจกับคุณภาพทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพเสียง การใช้งานที่หลากหลาย และความทนทาน เรียกได้ว่า หายห่วง ส่วนสเปคด้านในจะเป็นยังไง เสียงดีมั้ย เดี๋ยวเรามาลองหาคำตอบกันเลยดีกว่าครับ


Blue : Spark SL

 

มาถึงเจ้าตัวแรก กับเจ้า Spark SL ซึ่งเจ้าไมโครโฟนตัวนี้ได้มีการ Re-Design ปรับปรุงหน้าตาซะใหม่ เรียกว่าหล่อเหลากว่าเดิมเยอะ โดยเจ้า Spark SL นั้นมาพร้อมกับสีแดงเลือดหมู แลดูขลัง Vintage กว่าเจ้า Spark ดั้งเดิมซึ่งสีจะออกส้มๆ ตัวไมค์ใช้วัสดุอย่างดี ดูแข็งแรง ความสูงอยู่ที่ 22.05 ซม. กว้าง 4.5 ซม. ซึ่งเจ้า Spark SL นี้เป็นไมค์โครโฟนที่ตัวเล็กที่สุดในซีรี่ย์นี้ โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 336 กรัมเท่านั้น ทำให้ง่ายต่อการพกพาออกนอกสถานที่ พร้อมด้วยฟังก์ชั่น Pad -20 dB และ High-Pass Filter ที่เพิ่มเติมเข้ามาจากเจ้า Spark ตัวเก่า ซึ่งจะทำให้เจ้าไมค์ตัวนี้อเนกประสงค์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

 

สำหรับเจ้าไมค์ตัวนี้มีแพทเทิร์นการรับเสียงแบบ Cardioid  ตอบสนองย่านความถี่ตั้งแต่ 20 Hz – 20 kHz ทำให้สามารถบันทึกเสียงเครื่องดนตรีได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นเสียงร้อง กีตาร์ เปียโน เครื่องสาย นอกจากนี้ด้วยฟังก์ชั่น Pad -20 dB จะทำให้คุณสามารถบันทึกเสียงเครื่องดนตรีที่ Attack แรงๆ เช่นเครื่อง Brass (เครื่องเป่าประเภททองเหลีอง) หรือการจ่อไมค์หน้าตู้กีตาร์ ไปจนถึงเครื่องดนตรีประเภท Percussion เช่นกลองได้อย่างไม่มีปัญหา ตัวไมค์มีค่า Max SPL อยู่ที่ 136 dB ไม่มากไม่น้อย ซึ่งเมื่อรวมกับฟังก์ชั่น Pad -20 dB แล้วก็หายห่วงได้เลยครับ กับการบันทึกเสียงเครื่องดนตรี Attack แรงๆทั้งหลาย

 

 

ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของ Blue Microphone เจ้า Spark SL นี้จะให้เสียงที่ใส คมชัดที่สุดในซีรี่ย์ ทำให้เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับการบันทึกเสียงร้องย่านสูงๆ ไปจนถึงเครื่องดนตรีที่มีเสียงสูงๆ เช่น ไวโอลิน หรือฟลุท เป็นต้น และด้วยฟังก์ชั่น High-Pass Filter ซึ่งจะช่วยตัดย่านเสียงตั้งแต่ 100 Hz ลงไป ทำให้หมดปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากย่านต่ำเวลาบันทึกเสียง ทำให้เสียงที่ออกมามีความใส คมชัดทุกรายละเอียดเลยทีเดียว

 

 

นอกจากนี้ ตัวไมค์ยังมาพร้อมกับ Packaging ที่สวยงามและประณีตตามสไตล์ของ Blue โดยในกล่องจะมาพร้อมกับคู่มือ สติ๊กเกอร์ Blue นอกจากนี้ยังมี Shock Mount ขนาดพอดีตัวแถมมาให้ ส่วนตัวไมค์โครโฟนนั้นมาในกล่องไม้ ดูหรูหราเป็นอย่างยิ่ง มาพร้อมกับใบรับประกันคุณภาพจาก Blue Microphone เรียกได้ว่า หายห่วงครับหายห่วง

 

 

มาถึงในส่วนของการทดสอบกันบ้าง โดยผมได้ทำการทดสอบโดยการนำเจ้า Spark SL มาจ่อหน้าตู้แอมพ์กีต้าร์ พร้อมทั้งเปิดใช้งานฟังก์ชั่น Pad -20 dB เพื่อรองรับ Attack ที่มีความแรงจากตู้แอมป์ Orange รุ่น Crush 12  เสียงที่ออกมามีโทนค่อนข้างใส ชัด และเคลียร์ตามที่ทาง Blue ได้โฆษณาไว้จริงๆ

 



Blue : Bluebird SL

 

มาถึงคิวของตัวต่อไป กับ Bluebird SL  ซึ่งในส่วนของหน้าตาก็ไม่ต่างจากเจ้ารุ่นดั้งเดิมมากนัก มาในโทนสีน้ำเงิน วัสดุมีความแข็งแรงทนทาน ความสูงอยู่ที่ 22.25 ซม. กว้าง 4.75 ซม. ขนาดใหญ่กว่าเจ้าตัว Spark SL เล็กน้อย น้ำหนักอยู่ที่ 455 กรัม หรือประมาณครึ่งกิโลกรัมนั่นเอง

 

 

สำหรับเจ้าไมค์ตัวนี้มีแพทเทิร์นการรับเสียงแบบ Cardioid  ตอบสนองย่านความถี่ตั้งแต่ 20 Hz – 20 kHz เช่นเดียวกับเจ้า Spark SL ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของ Blue Microphone เจ้า Bluebird SL ตัวนี้ให้โทนเสียงที่ค่อนข้างสมัยใหม่ ให้ย่านเสียงสูงที่เคลียร์ชัด ส่วนย่านเสียงกลางก็มีความ Smooth นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแผ่นรับเสียงหรือ Diaphragm ขนาดใหญ่ เคลือบด้วยทองคำ (gold-sputtered)  ซึ่งทำให้ช่วยรับเสียงย่านสูงได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้การที่มีแผ่นรับเสียงขนาดใหญ่ ยังช่วยให้สามารถรับเสียงได้เต็มยิ่งขึ้นนั่นเอง

 


และเช่นเดียวกับไมค์ทุกตัวในซีรี่ย์ Essential Series รุ่นใหม่ ซึ่งจะมาพร้อมกับฟังก์ชั่น Pad -20 dB และ High-Pass Filter ที่จะช่วยให้เจ้าไมค์ตัวนี้มีความอเนกประสงค์มากยิ่งขึ้น ในข้อมูลของทางเว็บไซต์ Blue Microphone บอกไว้ว่าไมค์ตัวนี้จะช่วยให้การบันทึกเสียงร้องมีความเต็ม อิ่ม และใส นอกจากนี้ยังช่วยให้ซาวด์กีตาร์มีความเต็ม และอิ่มเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไมค์ตัวนี้ก็ยังมีความอเนกประสงค์อย่างมาก ยิ่งเมื่อใช้งานร่วมกับฟังก์ชั่นใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามา ก็จะช่วยให้เจ้าไมค์สามารถบันทึกเสียงเครื่องดนตรีได้หลากหลายประเภทเป็นอย่างมาก

 

 

ไมค์ตัวนี้มีค่า Max SPL อยู่ที่ 138 dB มากกว่าเจ้า Spark SL อยู่ 2 dB เมื่อรวมกันฟังก์ชั่น Pad -20 dB ก็จะทำให้คุณมั่นใจได้เมื่อบันทึกเสียงเครื่องดนตรีที่มี Attack แรงๆทั้งหลาย ตัวไมค์มี Self Noise อยู่ที่ 11.7 dB ซึ่งค่อนข้างเบาได้มาตรฐาน ยิ่งเมื่อใช้งานร่วมกับเจ้า High-Pass Filter ก็ทำให้หายห่วงได้เลยกับเสียงรบกวนต่างๆที่จะมากวนใจคุณ

 

 

นอกจากนี้ ตัวไมค์ยังมาพร้อมกับ Packaging ที่สวยงามและประณีตในกล่องจะมาพร้อมกับคู่มือ สติ๊กเกอร์ Blue นอกจากนี้ยังมี Shock Mount ขนาดพอดีตัวแถมมาให้ และเช่นเดียวกับเจ้า Spark SL ตัวไมโครโฟนนั้นมาในกล่องไม้ มาพร้อมกับใบรับประกันคุณภาพจาก Blue Microphone เช่นเดียวกัน

 

 

มาถึงในส่วนของการทดสอบกันบ้าง โดยผมได้ทำการทดสอบโดยการนำเจ้า Bluebird SL มาจ่อบริเวณ Sound Hole ของกีตาร์โปร่ง พร้อมทั้งเปิดใช้งานฟังก์ชั่น High-Pass Filter เพื่อตัดเสียงตั้งแต่ 100 Hz ลงไป ซึ่งจะช่วยลดเสียงย่านต่ำที่ไม่ต้องการออก เสียงที่ออกมาค่อนข้างใส ชัด และเคลียร์มาก ไม่ว่าจะเป็นเสียงรูดสาย หรือรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ก็สามารถรับเสียงได้เป็นอย่างดี ทำให้ซาวด์ที่ออกมานั้นดูดีมาก บอกได้เลยครับว่า ตัวนี้ ผมชอบเลยครับ ขอบอก


 

Blue : Baby Bottle SL

 

และแล้วก็มาถึงตัวสุดท้ายของซีรี่ย์นี้ กับ Baby Bottle SL ซึ่งเจ้าไมค์ตัวนี้ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของ Blue Microphone บอกไว้ว่า ให้โทนเสียงที่มีความอุ่น หนา สไตล์ไมค์วินเทจ แต่ยังคงความใส และคมชัดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Blue ไว้ได้เป็นอย่างดี ตัวไมค์หน้าตาเปลี่ยนแปลงไปจากตัวรุ่นดั้งเดิมเล็กน้อย โดยในรุ่นเก่าจะเป็นสีดำ ส่วนรุ่นใหม่จะมาในสีน้ำเงินเข้ม แลดูสวยงามขึ้นไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

 

 

ตัวไมค์มีความสูง 22.25 ซม. กว้าง 5.15 ซม. หนัก 410 กรัม ตัวไมค์ตอบสนองย่านความถี่ตั้งแต่ 20Hz ถึง 20 kHz เช่นเดียวกับตัวอื่นๆในซีรี่ย์ มีค่า Max SPL อยู่ที่ 134 dB ค่า Self Noise อยู่ที่ 10.8 dB ตัวแผ่นรับเสียงมีการเคลือบทองหรือที่เรียกว่า gold-sputtered ซึ่งจะช่วยให้รับเสียงย่านสูงได้ดี คมชัดยิ่งขึ้นตามสไตล์ของ Blue นั่นเอง

 

 

และเช่นเดียวกับไมค์ทุกตัวใน Essential Series รุ่นใหม่ ซึ่งจะมาพร้อมกับฟังก์ชั่น Pad -20 dB และ High- Pass Filter ในส่วนของ Packaging มาพร้อมกับกล่องสวยงาม เปิดกล่องมาจะพบกับ คู่มือ สติ๊กเกอร์ Blue และ Shock Mount ขนาดพอดีตัวเช่นเดียวกับทุกๆตัวในซีรี่ย์นี้ ตัวไมค์บรรจุมาในกล่องไม้ ดูหรูหราและวินเทจเช่นเดิม

 

 

สำหรับการทดสอบ ผมได้ทำการทดสอบเช่นเดียวกับที่ทำกับ Bluebird SL โดยทำการจ่อไมค์หน้า Sound Hole ของกีต้าร์ เปิดใช้ฟังก์ชั่น High-Pass Filter โดยในการทดลองพบว่า เจ้า Baby Bottle ให้ซาวด์ที่มีความอุ่นใช้ได้เลยทีเดียว ทั้งนี้ก็ยังคงรักษาความใส คมชัดที่เป็นเอกลักษณ์ของค่าย Blue ไว้ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า ยอดเยี่ยมเลยจริงๆ

 

New Essential Series ไมค์ดีๆที่คุณควรมีไว้ครอบครอง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับหลังจากได้ทราบสเปคและทดลองฟังเสียงกันไปแล้ว ผมมั่นใจว่าทุกคนคงเห็นได้ถึงคุณภาพ และความใส่ใจที่ทาง Blue มีต่อผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาที่ต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง ไปจนถึงความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อย ซึ่งเห็นได้จาก Packaging ซึ่งมีความประณีตเป็นอย่างมาก ในส่วนของเสียงนั้นต้องบอกเลยว่า ยอดเยี่ยมจริงๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหาไมค์ดีๆซักตัวไว้ร้อง Cover เพลงลง Youtube ไปจนถึงสตูดิโอต่างๆ ที่ต้องการเพิ่มคลังแสงไมโครโฟน เนื่องจากตัวไมค์มาพร้อมกับฟังก์ชั่นซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้งานกับเครื่องดนตรีได้แทบทุกประเภท เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมจริงๆครับ

สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อมาได้เลยในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Line@, Facebook, Instagram, หรือถ้าจะสั่งซื้อก็สามารถทำได้ง่ายๆผ่านทางเว็บไซต์ของเรา หรือมีข้อมูลอยากสอบถามเพิ่มเติมก็สอบถามมาได้เลยทางสายด่วน Hot Line ของเรา สำหรับวันนี้ก็คงต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ!

กรพัฒน์ ศรีสืบสาย  รายงาน
 

สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 081-802-5196, 02-719-2097 

เพิ่มเพื่อน

Line@ : @millionheadpro        

Facebook : millionheadpro  

Instagram : millionheadpro

สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Line@ : @millionheadpro
Facebook : millionheadpro
Instagram : millionheadpro