4 รูปแบบหูฟังมอนิเตอร์ที่ควรรู้ ก่อนเลือกใช้งาน

โดย Millionhead ในวันที่ 16 ม.ค. 2564, 18:39 น.

 Closed Back Headphones

คือรูปแบบหูฟังมอนิเตอร์ที่ครอบทั้งใบหู เป็นหูฟังที่สามารถกันเสียงจากในตัวหูฟังไม่ให้เสียงรั่วออกไปด้านนอกได้และกันเสียงจากภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวนภายในหูฟัง เหมาะสำหรับการใช้งานกับนักร้องหรือนักดนตรีที่กำลังอัดเสียงหรือเครื่องดนตรี เพราะเสียงจากหูฟังจะไม่รั่วเข้าใปในไมโครโฟน

ยกตัวอย่างเช่น
-Franken : MHP-02
-Beyerdynamic : DT 770 Pro (80 Ohm)
-AKG : K361
-AKG : K371
-Superlux : HD660
-Audio-Technica : ATH-M20x – M60x
-Sennheiser : HD (รุ่น HD ทั้งหมด)

Opened Back Headphones

คือรูปแบบหูฟังมอนิเตอร์ที่ถูกออกแบบมาแบบเปิดหู การที่หูฟังถูกออกแบบมาแบบเปิดทำให้มีเสียงแวดล้อมเข้ามาในหูผู้ใช้ ทำให้เสียงหรือเพลงไม่ฟังดูแห้งจนเกินไป เพิ่มเติมคือเสียงจากย่านเบสจะไม่ถูกกักตัวในหูและจะไม่ก่อให้เกิดอาการล้า เหมาะสำหรับการมิกซ์และมาสเตอร์ เพราะเสียงเสียงเบสไม่ถูกกักตัวแถมตัวหูฟังชนิดนี้จะมีน้ำหนักที่เบากว่า closed back ทำให้สามารถใช้งานหูฟังได้นานกว่าตัว closed back และไม่ทำให้หูเหนื่อยล้า

ยกตัวอย่างเช่น
-AKG : K701 & K702
-AKG : K245
-Beyerdynamic : DT 990 Pro (250 Ohm)
-Beyerdynamic : DT 1990 Pro (250 Ohm)

Semi-Open Back Headphones

คือรูปแบบหูฟังมอนิเตอร์ที่ถูกออกแบบมาคล้ายคลึงกับหูฟังแบบ opened back ตัวหูฟังจะลดการก่อตัวของย่านเบสและรับเสียงแวดล้อม แต่จะเสียงจากหูฟังยังคงมีการรั่วของเสียงอยู่ เหมาะสำรับคนที่อยากได้หูฟังที่ฟังแล้วไม่ล้าและยังได้ยินเสียงแวดล้อม

ยกตัวอย่างเช่น
-Artesia : AMH-11
-Beyerdynamic : DT 880 Pro (250 Ohm)
-AKG : K141 MKII
-AKG : K240 MKII & K240 Studio

In-ear Monitor

คือรูปแบบหูฟังมอนิเตอร์ที่ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กสะดวกต่อการพกพา ใช้จุก ( Eartips ) รูปแบบต่างๆเสียบกับช่องหู สามารถกันเสียงจากภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวนได้ดี ให้คุณภาพเสียงที่ชัดเจนและคมชัดเนื่องจากรูปแบบการสวมใส่เข้ากับหูโดยตรง แต่จะให้มิติของเสียงได้ด้อยกว่าหูฟังแบบ Headphone

-MEE audio : M6 PRO 2nd
-Sennheiser : IE 500 PRO
-SHURE : SE215